Calleaf วิธีทาน และ รวบรวมคำถามทั้งหมด
1.ทานแคลลีฟได้ติดต่อกันนานแค่ไหน และนานขนาดไหนจึงควรหยุด
สามารถทานติดต่อกันได้ค่ะ แคลลีฟเป็นตัวช่วยหนึ่งในการลดน้ำหนักเท่านั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานของเราสำคัญที่สุด และควรจะหยุดทานเมื่อเราพอใจในผลลัพธ์ คือน้ำหนักที่เราพอใจ
2.หากกำลังรับประทานยาอื่นๆอยู่ สามารถทานอาหารเสริมร่วม Calleaf ด้วยได้หรือไม่?
ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนการตัดสินใจรับประทาน Calleaf เนื่องจากยามีหลากหลายประเภท ดังนั้นการออกฤทธิ์ของยาแตกต่างกัน รวมถึงสภาพร่างกายของผู้ป่วยที่แตกต่างกันเช่นกัน
3.ยาชนิดใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงในการทานร่วมกันกับแคลลีฟ
Calleaf ห้ามทานคู่กับยาแก้หวัดต่างๆ หรือยาขยายหลอดลม เพราะมีคาเฟอีนเป็นตัวกระตุ้น ทำให้หัวใจเต้นเร็วเหมือนกันกับยาแก้หวัดหรือยาขยายหลอดลม หากทานคู่กันอาจจะส่งผลให้เกิดอาการใจสั่น หรือหัวใจเต้นผิดปกติได้
4.สามารถทาน Prerotic และ Calleaf 24 พร้อมกันได้หรือไม่?
แนะนำให้ทาน Calleaf ตัวเดียวก่อน เพราะ calleaf มีสารที่ช่วยในการขับถ่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นคนที่ท้องผูกมากๆ ขับถ่ายยาก ควรทาน Prerotic เพื่อปรับลำไส้ก่อนสัก 3 วัน แล้วค่อยทาน Calleaf
5.หากเป็นโรคประจำตัวเช่นโรคหัวใจ ความดันเลือดสูง สามารถทานแคลลีฟได้หรือไม่?
แคลลีฟมีคาเฟอีนจากชาเขียว ซึ่งไม่ได้เป็นปริมาณคาเฟอีนที่มาก แต่สำหรับคนที่เซนซิทีฟกับคาเฟอีน ก็อาจจะรู้สึกเวียนหัว ใจเต้น หรือนอนไม่หลับได้ แนะนำปรึกษาคุณหมอก่อนทานผลิตภัณฑ์ค่ะ
6.หากทานแคลลีฟหลังมื้ออาหาร จะยังคงมีประสิทธิภาพหรือ
ไม่แนะนำให้ทานแคลลีฟหลังมื้ออาหารค่ะ เพราะแคลลีฟจะช่วยลดความอยากอาหาร และเข้าไปช่วยลดการเหวี่ยงของฮอร์โมนอินซูลินซึ่งระดับฮอร์โมนอินซูลินจะสูงสุดในเวลาตื่นนอนหรือตอนเช้านั่นเอง หากลืมทานก่อนอาหารเช้าแนะนำให้เริ่มวันถัดไป หรือหากลืมทานตอนเช้าและวันนั้นต้องการจะทานจริงๆ ให้ทานก่อนอาหารเที่ยง 1 ชม. แทนค่ะ
7.อยากลดน้ำหนักให้เห็นผลเร็ว ต้องทำอย่างไร?
แนะนำให้ออกกกำลังกายควบคู่ค่ะ น้ำหนักจะยิ่งลงไวกว่าการทานอาหารเสริมปกติ แคลลีฟเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งเท่านั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารสำคัญที่สุด หากเราสปีดให้ลงเร็วมากๆ ระบบเผาผลาญก็จะพัง และจะกลับมาอ้วนได้ง่าย เพราะร่างกายปรับตัวไม่ทัน การลดน้ำหนักต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป เมื่อวันหนึ่งที่เราหยุดทาน Calleaf24 เราจะได้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ที่ไม่วนเวียนอยู่กับการลดน้ำหนักไปตลอดชีวิตค่ะ
8.ทำไมทานแคลลีฟแล้วน้ำหนักลงช้า
แต่ละคนมีระบบเผาผลาญไม่เหมือนกันค่ะ บางคนลดเร็ว บางคนลดช้า มีหลากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องค่ะ อย่าไปเปรียบเทียบกับคนอื่นนะคะ ค่อยๆลด ร่างกายเราจะค่อยๆปรับตัวไปด้วยค่ะ แคลลีฟเป็นอาหารเสริมลดน้ำหนักใช้สารออกฤทธิ์จากธรรมชาติ ปราศจากยาอันตราย ดังนั้นจึงต้องอาศัยระยะเวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ระยะเวลาที่น้ำหนักจะลงช้าหรือเร็ว นอกจากขึ้นกับการลดปริมาณอาหารที่เข้าสู่ร่างกายแล้ว การกำจัดน้ำหนักส่วนเกินที่คงค้างในร่างกายก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาควบคู่ น้ำหนักลงช้าส่วนหนึ่งอาจเกิดมาจากอัตราการเผาผลาญในร่างกายที่ทำงานล่าช้า อาจขึ้นกับกรรมพันธุ์ อายุ เพศ เป็นต้น ดังนั้นการออกกำลังกายหรือการเพิ่มการเคลื่อนไหว ก็เป็นการช่วยเสริมประสิทธิภาพและประสิทธิผลการลดน้ำหนักให้เห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
9.ทานแคลลีฟวันละ 2 แคปซูลได้หรือไม่
สามารถทานได้ค่ะ อย่างไรก็ตามอยากให้ลองทาน 1 เเคปซูลดูก่อน ถ้ายังรู้สึกหิว ยังอยากทานจุกจิกก็เพิ่มเป็น 2 แคปซูลค่ะ
10.ทำไมทานแคลลีฟแล้วถ่ายบ่อย?
เนื่องจากมีสารสกัดที่ชื่อว่า Garcinia Extract หรือส้มแขก ที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายค่ะ เนื่องจากเราต้องการเคลียร์อาหารส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการออกทุกวัน ซึ่งสารสกัดจากผลส้มแขกทำหน้าที่กระตุ้นระบบขับถ่ายของร่างกาย เพื่อขับอาหารที่ร่างกายไม่ได้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงไขมัน แป้งและน้ำตาลที่ถูกสารสกัดในสินค้าแคลลีฟป้องกันไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่ายกายได้ถูกขับออกมา
11.ทานเเคลลีฟเเล้วรู้สึกร้อนๆในคอ เกิดจากอะไร?
อาการดังกล่าวเกิดได้จากสารสกัดที่ชื่อว่า Black Pepper Extract หรือสารสกัดพริกไทยดำค่ะ ทำหน้าที่เสริมการทำงานของแคลลีฟให้มีประสิทธิภาพรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แนะนำให้ทานน้ำตามเยอะๆประมาณ 40 นาที อาการดังกล่าวจะค่อยๆหายไป
12.หากหยุดทานแล้ว จะกลับมาอ้วนเหมือนเดิมมั้ย?
แคลลีฟเป็นอาหารเสริมที่มีกลไกพิเศษ ทำให้เราอิ่มเร็วขึ้น การทานอาหารในแต่ละมื้อจะลดลงจากปกติประมาณ 30-60% ทำให้กระเพาะของเราค่อยๆหดตัวลง เราต้องพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเรา ด้วยการเลือกทานอาหารที่ไม่อ้วนจนเกินไปและออกกำลังกายเบาๆควบคู่ไปด้วย เพราะเมื่อวันหนึ่งที่เราหยุดทานแคลลีฟ เราจะได้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ที่รู้จักประมาณการทานอาหาร และไม่กลับมาอ้วนอีก ไม่วนเวียนอยู่กับการลดน้ำหนักไปตลอดชีวิตค่ะ
13.หยุดทานแคลลีฟและจะเกิดโยโย่ เอฟเฟค (YOYO Effect) หรือไม่?
อาการโยโย่คืออาการที่เกิดจากการทานยาน้ำหนักที่มีฤทธิ์กดประสาทคือ “ไซบูทามีน” ทำให้เรารู้สึกไม่หิวข้าว ใจสั่น หิวน้ำบ่อย คอแห้ง นอนไม่หลับ ซึ่งในแคลลีฟเราใช้สารสกัดที่มาจากพืชทั้งหมด ไม่ใช่อาหารเสริมที่ทานเข้าไปแล้วทานอะไรไม่ได้อีกเลย แต่ปริมาณการทานของเราจะลดลงเท่านั้น
ทำให้สามารถลดความอ้วนได้ถาวร เนื่องจากกระเพาะเราหด ไม่ใช่การกล่อมประสาทเพื่อให้สมองเรารู้สึกว่าร่างกายไม่ต้องการอาหาร เมื่อหยุดทานแคลีฟกระเพาะทุกคนหดแล้ว ต่อให้จะอยากทานอาหารมื้อใหญ่แค่ไหน เราก็จะทานไม่ได้ จะรู้สึกแน่นและอึดอัด เพราะฉะนั้นอาการโยโย่ไม่ต้องกังวลในแคลลีฟเลยค่ะ แคลลีฟเป็นอาหารเสริมที่เราคิดมาอย่างดีแล้วว่า ปลอดภัยต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวค่ะ
14.แคลลีฟต้องทานครั้งละกี่แคปซูล?
แนะนำให้จับความรู้สึกตอนทาน ลองทาน 1 แคปซูล ถ้ายังรู้สึกหิว ยังอยากทานจุกจิกก็เพิ่มเป็น 2 แคปซูลค่ะ บางคนทานแค่ 1 แคปซูล อิ่มมากทานข้าวแทบไม่ได้ บางคนทาน 1 แคปซูลไม่อิ่ม ต้องเพิ่มเป็น 2 แคปซูลถึงจะพอดี
15.แคลลีฟทานยังไงให้เห็นผล?
Calleaf วิธีทานให้เห็นผลดีที่สุด ทานก่อนอาหาร 1 ชม.
เช่นเริ่มทานมื้อเช้า 8.00 แนะนำให้ทาน Calleaf24 เวลา 7.00 ค่ะ
อีกรอบแนะนำเป็นช่วงบ่ายประมาณบ่าย 3 บ่าย 4 ค่ะเพื่อดักไว้ไม่ให้กินข้าวเย็นเยอะเกินไป
รวมทานวันละ2 เม็ด
ถ้าเป็นคนที่ทานชาแล้วนอนไม่หลับแนะนำทานก่อน 4 โมงเย็น เพราะตัวนี้มีส่วนผสมของชาเขียวจะได้ไม่รบกวนการนอนค่ะ
Tips เราต้องทาน calleaf ตอนที่เรายังไม่หิวนะคะ เพื่อดักและคุมความอยากอาหารก่อนรู้สึกอยากจริงๆค่ะ อย่าปล่อยจนหิวแล้วค่อยทานค่ะ แนะนำก่อนมื้ออาหาร 1ชั่วโมงค่ะ
ด้วยความที่อาหารเสริมของเราเป็นสูตรที่ออกแบบมาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด หรือลดการเหวี่ยงของอินซูลินในร่างกาย จึงแตกต่างจากอาหารเสริมตามท้องตลาดทั่วไป เพราะฉะนั้นการทานที่เห็นผลดีที่สุดควรจะตื่นมาแล้วทานเลย หรือทานก่อนอาหารเช้า 1 ชั่วโมงค่ะ เพราะระดับน้ำตาลจะสูงที่สุดในเวลาเช้า หากเราทานแคลลีฟเข้าไปจะช่วยลดการเหวี่ยงของอินซูลิน ทำให้เราหิวน้อยลง โดยจะคุมความหิวได้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง โดยการสังเกตผ่านการทานก่อนอาหารเช้า 1 ชั่วโมง จะพบได้ว่าระหว่างวันจะไม่มีอาการหิวจุกจิก จะรู้สึกอิ่มๆนิ่งๆ ไม่อยากอาหาร บางคนอยู่ได้ถึง 8 ชั่วโมงต่อวัน แนะนำรับประทานแคลลีฟควบคู่ไปพร้อมกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และให้พลังงานน้อย อาทิเช่น Plant Protein 42 จะยิ่งเห็นผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แนะนำให้รับประทานแคลลีฟช่วงเช้าถึงกลางวัน สำหรับมื้อเย็นให้เป็นหน้าที่ของ Plant Protein 42 ที่จะมาช่วยดูแลคุณ แค่นี้ร่างกายก็จะกลับมาหุ่นสวยได้อย่างรวดเร็ว
หากตอนเย็นหิวแนะนำให้ทานค่ะ เมื่อไหร่ที่ท้องร้องแสดงว่าร่างกายต้องการอาหาร แนะนำว่าอย่าอดอาหาร แต่ให้เลือกทานอาหารที่ให้พลังงานน้อยและอิ่มนาน เพราะมื้อเย็นเป็นมื้อที่ร่างกายเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการพักผ่อน ไม่ควรจะทานอาหารมื้อหนัก เพราะนอกจากทำให้เราอ้วนแล้วยังทำให้อวัยวะภายในทำงานหนัก ไม่ได้พักผ่อน ทำให้เราแก่ได้เร็วขึ้น หรือเลือกทานเป็นตัว Plant Protein42 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของลูกค้า ทางผู้ผลิตพัฒนาและวิจัยให้มีสูตรส่วนประกอบที่เหมาะสมต่อการรับประทานเป็นอาหารทดแทนมื้ออาหาร ซึ่งมีพลังงานน้อยเพียง 150 Kcal พร้อมทั้งโปรตีนและไฟเบอร์สูง ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นพร้อมทั้งอิ่มยาวนาน สวยได้ไม่ต้องอด
17.เป็นโรคซึมเศร้าสามารถทานเเคลลีฟได้มั้ย?
ไม่แนะนำค่ะ เพราะคาเฟอีนจากใบชาเขียวมีส่วนทำให้ร่างกายตื่นตัว บางคนอาจจะทำให้หลับยากขึ้นถ้าเป็นคน sensitive ต่อชาเขียว หรือคาเฟอีน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้า และหากคนไข้ทานยารักษาโรคซึมเศร้าอยู่ อาจจะมีผลต่อการรักษาได้ค่ะ
18.แคลลีฟสามารถบล็อกแป้งและไขมันได้หรือไม่
เราใช้สารสกัดที่มีค่า DNJ มาใช้ในแคลลีฟซึ่งจะสามารถลดการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลได้
แคลลีฟช่วยให้ร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้น้อยลง แล้วยังช่วยดึงไขมันเก่าออกมาใช้มากขึ้น
เพราะมีสารสกัดใบชาเขียว ใบชาม่วง แต่แคลลีฟไม่ได้มีส่วนผสมจากถั่วขาวที่สามารถบล็อกแป้งค่ะ
19.สามารถทานเเคลลีฟหลังบ่าย 3 ได้หรือไม่
โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ทานแคลลีฟหลังบ่าย 3 ค่ะ เพราะตัวนี้มีคาเฟอีน อาจจะทำให้นอนไม่หลับและรบกวนการพักผ่อนได้ค่ะ
แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นกับตัวบุคคล หากมีความจำเป็นต้องทานหลังบ่าย 2 แนะนำให้ลองสังเกตุอาการง่วงนอน ว่าเกิดขึ้นหลังจากทานแคลลีฟแล้วประมาณกี่ชั่วโมง ระยะเวลาดังกล่าวนั้นสามารถเป็นแนวทางได้ว่าร่างกายสามารถขับสารคาเฟอีนออกได้ภายในกี่ชั่วโมง เพียงเท่านี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนการรับประทานได้เหมาะสมตามสภาพร่างกายของแต่ละท่านแล้วค่ะ
20. โรคประจำตัว SLE สามารถทานได้แคลลีฟได้หรือไม่
ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนการตัดสินใจรับประทาน เนื่องจากโรค SLE หรือโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเองเป็นโรคที่ค่อนข้างมีความอ่อนไหวสูง ดังนั้นอาการแพ้ของโรค จึงขึ้นกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลค่ะ
ช่วงที่มีไข้ควรหยุดทาน calleaf ก่อนค่ะ รอให้หายดีแล้วค่อยทานได้ค่ะ เนื่องจากคาเฟอีน ห้ามทานคู่กับยาแก้หวัดต่างๆ นอกจากนี้แคลลีฟยังมีคาเฟอีนซึ่งช่วยให้ร่างกายตื่นตัว ซึ่งอาจรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยได้ค่ะ 
เป็นสิวรักษายังไง
เมดิลีนแฟคเตอร์ทำจากอะไร
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
กล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง โดยมีวิธีการแก้ไขข้อความดังตามขั้นตอนต่อไปนี้
เข้าสู่โหมดตกแต่งร้าน > คลิกเลือกที่กล่องนี้ > เลือกเมนูข้อความ
ระบบสมาชิก
